SCCCRN

Topic List

341 items(1/35) 2 3 4 5 Next » Last »|
โดย punyha on 16 ก.ย. 67 08:25

"ระบบเตือนภัยด้วยตนเอง"

หน้าฝนของภาคใต้ฝั่งตะวันออกใกล้เข้ามาแล้ว พร้อมข่าวอุทกภัยใหญ่ประเดประดังมาเป็นระยะ ล่าสุดเกิดที่เชียงราย พายุดีเพรสชั่นเข้าพื้นที่ ฝนหนักไหลลงจากภูเขาที่ไม่มีป่าดูดซับ น้ำหลากเข้าท่วมแทบทั้งจังหวัด จึงอยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเมืองหาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากก็ว่าได้ ความที่เกิดเหตุบ่อย ในพื้นที่จึงเกิดการพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้ามารองรับ หัวใจหลักคือ นำข้อมูลที่ประชาชนควรรับรู้มานำเสนอให้เข้าถึงได้ง่าย "เตือนภัยแบบไม่ต้องเตือน" ผนวกกับกลไกเสริมหนุนที่สำคัญ

1)มีทีมประเมินสถานการณ์ระดับจังหวัด ประกอบด้วยวิชาการมอ.เป็นหัวหน้าทีม ลูกทีมประกอบด้วยศูนย์อุตุฯ ชลประทาน ทรัพยากรน้ำภาค ปภ.จังหวัด ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่ประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดอุทกภัย สามารถเรียกประชุมเร่งด่วนได้ มีข้อสรุปอย่างไรก็ส่งต่อผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ

กลไกนี้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ทำหน้าที่เสริมหนุนกลไกหลักที่ปภ.เป็นหน่วยเลขาดำเนินการ

เทศบาลนครหาดใหญ่ในฐานะท้องถิ่นที่ปกติพอเข้าหน้าฝนต้องตั้งศูนย์ฯจะต้องแถลงข่าว พร้อมกับวางระบบย่อยในพื้นที่เสี่ยง อาทิ บ้านพี่เลี่ยง(จุดอพยพย่อย) ธงสี+สัญญาณเสียง กลุ่มไลน์ การบริหารจัดการน้ำ(สูบน้ำ/ระบายน้ำ) ทีมเผชิญเหตุ

ที่สำคัญ พื้นที่หน้าด่านคือ 10 ชุมชนริมคลองอู่ตะเภา เป็นจุดแรกที่เกิดน้ำท่วม ก่อนที่น้ำข้ามพนังเข้าสู่ตัวเมืองรอบนอก และไหลขึ้นท่อมาท่วมในเขตเศรษฐกิจ จะต้องมีแผนระดับชุมชน จัดระบบรองรับกลุ่มเสี่ยง ระบบบ้านพี่เลี้ยงที่จะเป็นจุดอพยพย่อย จุดจอดรถ เหล่านี้ขึ้นอยู่ว่าเทศบาลฯจะต้องเตรียมก่อนหน้าฝนหรือไม่อย่างไรด้วย

2)สร้างช่องทางสื่อสารให้กับประชาชน รวมข้อมูลที่จำเป็นมาอยู่ในที่เดียวกัน www.hatyaicityclimate.org เป็นเว็บที่คนหาดใหญ่รู้จักดี ด้วยน้ำท่วมใหญ่ในหาดใหญ่เกิดขึ้นได้จากปัจจัยสำคัญ คือน้ำจากคลองอู่ตะเภาไหลหลากเข้าท่วมเมือง โดยเฉพาะน้ำจากอำเภอสะเดา ไหลมารวมกับน้ำจากนาหม่อม คอหงส์ ควนลัง จึงได้ติดตั้งกล้อง cctv (เอกชนร่วมกันสนับสนุน ยกเว้นกล้องที่สะพานหน้าอำเภอที่เป็นของทรัพยากรน้ำภาค 8)ตามจุดสำคัญริมคลองอู่ตะเภาที่วิเคราะห์ผังน้ำแล้วว่าสามารถเตือนภัยล่วงหน้าได้ พร้อมที่วัดระดับน้ำ มีสัญลักษณ์ธงสีแจ้งเตือน

3)บริหารระบบระบายน้ำ ผ่านคลองระบายน้ำสายต่างๆ ที่จะต้องจัดการร่วมกับท้องถิ่นที่อยู่ใกล้เคียง อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของกองช่างบวกกับเทคโนโลยี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินที่มีการถมที่ การขุดลอกท่อ คูระบายน้ำ การพัฒนาสร้างที่อยู่อาศัย/การสร้างถนนขวางทางน้ำ จุดรับน้ำมีเหลือมากน้อยเพียงใด

ที่สำคัญ ปริมาณน้ำฝนที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งมีเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมได้ ประกอบด้วย

1)ระเบิดฝนRain Bomb เกิดจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกในปริมาณ 100 มม.ต่อชม.ทำให้เกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน ด้วยมาตรฐานของระบบระบายน้ำในบ้านเรารองรับน้ำได้ที่ 60-80 มม.ต่อชม. เมืองใหญ่ๆมักเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้บ่อยครั้ง ศูนย์อุตุฯมีเวลาเตือนล่วงหน้า 1 ชม.เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอ เป็นปัญหาใหญ่ที่จะต้องพัฒนาระบบมารองรับต่อไป

2)ฝนจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเข้าปกคลุมพื้นที่ หรือทำให้เกิดท่วมใหญ่จะมาจากพายุดีเพรสชั่น พูดง่ายๆ ปริมาณน้ำระดับ 400 มม.ที่ตกต่อเนื่องหลายวัน เกินความจุของพื้นที่รับน้ำ กรณีนี้เราจะหนีอุทกภัยใหญ่ไม่พ้น เพียงแต่เราจะมีเวลารู้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อม แล้วก็อยู่ทิศทางของฝนว่าเคลื่อนตัวไปไหนอย่างไร

www.hatyaicityclimate.org เกิดขึ้นจากความร่วมมือของโครงการเครือข่ายเมืองในเอเซียเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(ACCCRN) ซึ่งปัจจุบันจัดตั้งเป็นมูลนิธิเครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(SCCCRN)หลอมรวมทีมงานจากภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องมาทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีภาคเอกชนและประชาสังคมเป็นแกนประสานงาน เว็บไซต์นี้มูลนิธิ SCCCRNเจ้าของดำเนินการเอง รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อความคล่องตัวและสร้างความเป็นเจ้าของให้แก่ประชาชน

ระบบของเว็บไซต์พัฒนาให้สามารถรองรับการใช้งานของประชาชนนับแสนครั้งในกรณีฝนตกหนัก โดยมี server รองรับจาก 3 หน่วยงาน คือ บ.inet ม.อ. และมูลนิธิฯ

ด้วยความหวังว่าจะช่วยลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นในภาวะโลกเดือด ซึ่งเป็นภัยใหม่ที่คุกคามเราทุกคน

ชาคริต โภชะเรือง ทีมงานมูลนิธิ SCCCRN

โดย Little Bear on 14 ก.ย. 67 10:05

Google Flood Hub เป็นเครื่องมือที่ใช้ AI ในการพยากรณ์และเตือนภัยน้ำท่วมล่วงหน้า ซึ่งพัฒนาโดย Google โดยมีจุดเด่นมากมายคือ

  • พยากรณ์น้ำท่วมล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน ใช้ AI และข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น พยากรณ์อากาศ ภาพถ่ายดาวเทียม และแบบจำลองทางอุทกวิทยา เพื่อคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมล่วงหน้า และคาดการณ์ว่า ระดับน้ำจะลดลงเมื่อใด
  • สามารถแสดงข้อมูลปริมาณน้ำและพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยจะบอกระดับน้ำที่คาดการณ์ไว้ในแต่ละพื้นที่ และแสดงแผนที่แสดงพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
  • การใช้งาน ครอบคลุมพื้นที่ใน 80 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

เครื่องมือนี้ จะมีส่วนช่วยลดความเสียหายจากน้ำท่วม โดยมีโอกาสเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง หรือช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถบริหารจัดการน้ำและให้ความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ โดยเฉพาะกับพื้นที่ ที่ต้องรับมวลน้ำจากแนวแม่น้ำต่าง ๆ  ก็จะมีเวลาเตรียมตัวรับมือได้เร็วขึ้นด้วย

ดูรายละเอียดได้จาก ลิงก์ Google Flood Hub

โดย Little Bear on 7 ก.พ. 66 18:13

มูลนิธิเครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Southern Cities Climate Change Resilience Network Foundation) โดยประธานมูลนิธิ คุณสมพร สิริโปรานานนท์ พร้อมทั้งกรรมการมูลนิธิ รับมอบระบบกล้องวงจรปิดประกอบด้วย กล้องไอพี Hikvision 4G เราท์เตอร์ และ Internet SIM จาก True โดยตัวแทนผู้มอบจาก บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวขั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คุณอภิรักษ์ พุทธา จัดการฝ่ายขายต่างจังหวัด พร้อมด้วยพันธมิตรจาก Hikvision (Thailand) ประเทศไทย คุณเกษมสานต์ อติศัพท์ Channel Account Manager และบริษัท ทรู คอร์เปเรชั่น คุณธำรง ยังธำรงจรัส ตำแหน่ง District Manager (ผู้จัดการฝ่ายขายประจำพื้นที่อำเภอหาดใหญ่) ณ. ห้องประชุม iNET อาคารสินธร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

โดย Little Bear on 7 ก.พ. 66 18:11

7 กุมภาพันธ์ มูลนิธิเครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Southern Cities Climate Change Resilience Network Foundation) โดยประธานมูลนิธิ คุณสมพร สิริโปรานานนท์ พร้อมทั้งกรรมการมูลนิธิ รับมอบระบบกล้องวงจรปิดประกอบด้วย กล้องไอพี Hikvision 4G เราท์เตอร์ และ Internet SIM จาก True เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือจากภาคเอกชนมาร่วมสนับสนุนเตรียมความพร้อมการดำเนินงาน www.Hatyaicityclimate.org เฝ้าระวังอุทกภัยเมืองหาดใหญ่ในปี 2566นี้

โดยมีตัวแทนผู้มอบจากบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวขั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คุณอภิรักษ์ พุทธา ผู้จัดการฝ่ายขายต่างจังหวัด พร้อมด้วยพันธมิตรจาก Hikvision (Thailand) ประเทศไทย คุณเกษมสานต์ อติศัพท์ Channel Account Manager และบริษัท ทรู คอร์เปเรชั่น คุณธำรง ยังธำรงจรัส ตำแหน่ง District Manager (ผู้จัดการฝ่ายขายประจำพื้นที่อำเภอหาดใหญ่) ณ ห้องประชุม iNET ชั้น 5 ตึกสิรินธร ม.อ.หาดใหญ่

และยังหารือความร่วมมือกับบ.iNet ในการขอใช้คลาวน์ในการบริหารจัดการข้อมูลในช่วงพีคของการเข้าดูเว็บไซต์ขณะเกิดอุทกภัย ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการเรือนแสนคน พร้อมกับจับมือกับศูนย์วิจัยภัยพิบัติธรรมชาติภาคใต้ ม.อ. ศึกษา ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จัดทำแผนรับมือน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ทม.คอหงส์ ชุมชนทุ่งรี หน้าสวน และชุมชนในตลอดสายคลองย่อยไปถึงคลองแห ซึ่งยังเป็นปัญหาใหญ่และกระทบต่อเมือง และยังไม่มีระบบที่ดีรองรับ

มีข้อเสนอแนะในการใช้ระบบ AI เข้ามาเสริมหนุนให้เกิดการรับรู้และสื่อสารกับกลุ่มเสี่ยงโดยตรง พัฒนากระบวนการและช่องทางสื่อสารลดความสูญเสีย และใช้เป็นโอกาสในการพัฒนา SMARTCITY วางระบบพื้นฐาน data center ของเมือง สำรวจความสูงต่ำของพื้นที่เชิงกายภาพของเมือง(รองรับการพัฒนา หรือการถมที่ การเปลี่ยนทางน้ำ ฯลฯ) ทิศทางการไหลของน้ำ ปริมาณน้ำฝนที่ตกในแต่ละช่วงเวลา เหล่านี้เมืองยังจำเป็นที่จะต้องมีระบบกลางที่ให้ประชาชนได้รับรู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องผลักดันกับผู้บริหารเมืองต่อไป

โดย punyha on 11 ม.ค. 66 14:54

"รับมือน้ำท่วมฉับพลัน"

วันที่ 11 มกราคม 2566  ผศ.ดร.ธนันท์ ชุบอุปการ ผอ.ศูนย์วิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติภาคใต้ ม.อ.และทีมร่วมหารือกับมูลนิธิ scccrn และมูลนิธิชุมชนสงขลา

ถึงความร่วมมือในการทำงานรับมือภัยพิบัติจากน้ำท่วม โดยเฉพาะนำปัญหาในช่วงอุทกภัยล่าสุดมาดำเนินการ เน้นการใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อหาทางรับมือน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งยังมีช่องว่างการรับมืออีกหลายประการ

อาทิ การเตือนภัยล่วงหน้าทำได้ยาก เนื่องจากฝนก่อตัวเร็วในเวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมง รูปแบบการตกของฝนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แม้ปริมาณรวมต่อปีไม่ต่างจากเดิม แต่มีการตกแช่อยู่กับที่ ในปริมาณมากเกิน 100 มม.มากขึ้น มีแนวโน้มจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มมากขึ้น เช่น กรณีฝนล่าสุดที่ตกในพื้นที่เขาคอหงส์ที่เป็นฝนรอบ 100 ปี

มีข้อสรุปประสานความร่วมมือภาคีเครือข่าย ทางศูนย์ฯจะพัฒนาโครงการเพื่อขอสนับสนุนจากวช. หรือแหล่งทุนที่เหมาะสมร่วมดำเนินการในชุมชนทุ่งรี ชุมชนหน้าค่ายของทม.คอหงส์ และชุมชนภาสว่างของทน.หาดใหญ่ ทีมงานจะประสานการทำงานต่อไป

โดย punyha on 26 ธ.ค. 65 11:53

"SCCCRN เฝ้าระวังอุทกภัย" ไปต่อ

คาบเวลาฝนฟ้าตามฤดูกาลปีนี้ บวกกับปริมาณน้ำที่มากในรอบ 12 ปีต่อครั้ง อุตุฯบอกว่าหน้าฝนเริ่มช้ากว่าปกติไป 1 เดือน เช่นนั้นแล้วหน้าฝนภาคใต้ล่างยังไม่สิ้นสุด ปีใหม่ไปแล้วฝนยังมีมาได้อีก เราจึงต้องเตรียมพร้อมไปต่อแบบพร้อมกว่าเดิม

มูลนิธิ scccrn (เครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) ปรับหน้าเว็บใหม่ เพิ่มความร่วมมือทางserver จับมือกันระหว่าง ม.อ บ.inet/สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดสงขลา และมูลนิธิscccrn เพื่อเมืองหาดใหญ่และเมืองอื่น

ลดภาวะหน่วง อืด ช้าของการจราจรในช่วงเวลาวิกฤตมีคนเข้าเว็บไซต์ www.Hatyaicityclimate.org พร้อมกันนาทีละนับพันคน คุณภาณุมาศ โปรแกรมเมอร์บอกว่ารอบนี้ในช่วงเวลาฝนหนักสองสามวันต่อเนื่องมีคนเข้าดูเรือนแสนและจำนวนครั้งดูท่วมท้นไปกว่า 4 ล้านครั้ง

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2565  คณะทำงานและทีมงานทั้งหมด จากศูนย์อุตุฯ ม.อ. อปท.ในเมืองหาดใหญ่(คอหงส์ พะตง รอทน.หาดใหญ่ และให้ประสานควนลัง) มูลนิธิชุมชนสงขลา สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดสงขลา ทีมโปรแกรมเมอร์ ประธาน เลขาฯ กรรมการมูลนิธิ scccrn นัดฉลองปีใหม่ หารือแนวทางรับมือในช่วงเวลาต่อไป(หากมี) โดยแบ่งงานเป็น 3 ส่วน

1.แก้ปัญหาทางเทคนิคการเข้าถึงข้อมูลของเว็บไซต์ ทดสอบแนวทางใหม่จนสิ้นสุดหน้าฝนภายใต้ความร่วมมือของ 3 องค์กร ใช้งานคลาวน์ของบ.iNet นำภาพนิ่งจากการบันทึกไปไว้ใน server ของม.อ. การกระจายภาระงานจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงเว็บไซด์ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับติดตั้งกล้อง cctv ในจุดต่างๆเพิ่มขึ้น มีความร่วมมือเสนอตัวมาช่วยราว 10-15 ตัว โดยเฉพาะคลองร.1(ณ สนง.ชลประทานและจุดที่บางแฟบ)

ทีมงานปรับหน้าตาเว็บไซต์อีกครั้ง ประชาสัมพันธ์ให้ทราบอย่างชัดเจนและเป็นทางการว่าเป็นความร่วมมือกับองค์กรหน่วยงานต่างๆที่ดำเนินการโดยมูลนิธิ scccrn พร้อมเปิดรับความร่วมมือจากทุกแหล่งเพื่อมาร่วมกันเป็นเจ้าภาพและเจ้าของ ภายใต้แนวคิด "หน่วยงานเป็นเจ้าภาพ ประชาชนเป็นเจ้าของ"

2.สื่อสารกับสังคม โดยเฉพาะความรู้พื้นฐานว่าเหตุน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ จะเกิดได้ 3 เงื่อนไข 1)ฝนหนักตกเฉพาะจุดในพื้นที่ เช่น กรณีคอหงส์ 2)ฝนหนักตกทั้งจุดภายในและภายนอกพื้นที่ 3)ท่วมใหญ่จากกรณีน้ำล้นจากคลองอู่ตะเภา

พร้อมจัดทำเส้นทางน้ำ ให้รู้ผังการเดินทางของน้ำ ระบบระบายน้ำ เงื่อนไขการเตือนภัย จุดติดตั้ง cctv เผยแพร่ในเว็บไซต์ ต้องการความร่วมมือจากจิตอาสาจัดทำคลิปสั้นๆ เป็นอนิเมชั่นดูง่ายๆ ใครมีความสามารถเสนอตัวมาได้

พร้อมจับมือช่วยกันสื่อสารกับสังคมผ่านเพจต่างๆ สร้างเครือข่ายสื่อ ลดความตื่นตระหนกและข่าวลือของประชาชน โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว หรือกลุ่มเสี่ยงต่างๆในช่วงเกิดวิกฤต

ที่สำคัญสร้างการมีส่วนร่วม รับมือและปรับตัวกับภาวะเสี่ยงด้วยตนเอง และร่วมแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

3.แผนงานอนาคต ม.อ.จับมือกับ iNet(อาจติด sensor) และเครือข่ายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงทำแผนกับชุมชนเสี่ยงภัยที่ต้องเผชิญความเสี่ยงลำดับต้นๆ อาทิ ทุ่งรี หน้าค่าย ควนลัง หรือการสื่อสารกับนักท่องเที่ยว/โรงแรม โรงเรียน ถึงขอบเขตของน้ำ ทิศทางการไหล ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณน้ำฝนกับระบบโครงสร้างพื้นฐานและการระบายน้ำ (ท่อส่งน้ำสายหลักและคูน้ำที่จะต้องขุดลอก/จุดสูบน้ำ-เครื่องสูบน้ำ/แก้มลิงต่างๆ/การพร่องน้ำและการระบายในช่วงวิกฤต)

รวมถึงการประสานอปท.ในพื้นที่ภูมินิเวศเดียวกันหารือร่วมกัน มองภาพเชื่อมโยงทั้งระบบ

โดย Little Bear on 25 ธ.ค. 65 10:11

ขออนุญาตเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของเว็บไซต์ www.Hatyaicityclimate.org หน่อยครับ

www.hatyaicityclimate.org ดำเนินการโดยมูลนิธิเครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(SCCCRN) ต่อเนื่องมาจากการทำงานโครงการเครือข่ายเมืองในเอเซียเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(ACCCRN) ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2553 โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิรอกกีเฟลเลอร์ ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน อาทิ ทน.หาดใหญ่ คลองแห คอหงส์ พะตง ม.อ. มทร.ศรีวิชัย ปภ.จังหวัด สสจ. โยธาธิการและผังเมือง ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก สำนักงานชลประทาน สนง.ทรัพยากรน้ำที่ 8 มูลนิธิชุมชนสงขลา เป็นต้น โดยมีดร.สมพร สิริโปราณานนท์ จากหอการค้ามาเป็นประธานคณะทำงาน

จุดเริ่มเพื่อหาพื้นที่เมืองรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยหาดใหญ่ เลือกทำเรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องหลัก จุดประสงค์สำคัญ เพื่อลดช่องว่างการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน ปกติหากเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนหาดใหญ่จะคุ้นชินกับการดูระดับน้ำในคลองอู่ตะเภา ภาพจำของคนหาดใหญ่จึงผูกติดความเชื่อว่าน้ำท่วม น้ำจะเอ่อล้นจากคลองเข้าท่วมเมือง คณะทำงานจึงนำกล้อง cctv ไปจับภาพ ณ จุดสำคัญของคลองตั้งแต่ต้นน้ำ(ม่วงก็อง) มาถึงกลางน้ำ(บางศาลา) มาถึงที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ และติดตั้งไปถึงระบบคลองสาขาที่มีผลต่อการเกิดน้ำท่วมเล็กในจุดสำคัญอื่นๆด้วย อาทิ คลอง 30 เมตร คลองหวะ ในอดีตก็มีกล้องที่คลองเรียน/คลอง ร.1 ตลาดกิมหยง แหลมโพธ์ และที่อื่นๆที่มิได้อยู่ในพื้นที่ทน.หาดใหญ่ เช่น พะตง(คลองตง)

นอกจากนั้นยังร่วมมือกับศูนย์อุตุฯ นำข้อมูลสำคัญ เช่น ภาพเรดาห์สทิงพระ ภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลฝนตามสถานีออนไลน์ ภาพกล้อง cctv จากชลประทาน(คลองหวะ) สนง.ทรัพยากรน้ำที่ 8(สะพานข้างอำเภอหาดใหญ่) ทำสื่อ ชุดความรู้ เปิดเพจ และแอพพลิเคชั่น city climate ไว้รองรับการเตือนภัยด้วยตนเองให้กับประชาชน

และยังได้จัดทำแผนรับมืออุทกภัยระดับชุมชน ร่วมกับกลุ่มจังหวัดจัดทำแผนรับมือระดับลุ่มน้ำไว้อีก 5 ลุ่มน้ำเมื่อราวปี 2557 อีกด้วย ด้วยข้อจำกัดและความคล่องตัวในการบริหารจัดการ คณะทำงานเลือกที่จะใช้มูลนิธิเป็นองค์กรรับผิดชอบหลัก แทนที่จะส่งมอบให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมิอาจตอบสนองการบริหารจัดการในรูปแบบเดิมที่มีการเชื่อมโยงข้ามองค์กร ข้ามพื้นที่ การทำงานเช่นนี้เป็นเรื่องใหม่ ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของระบบราชการ แต่ก็ต้องรับข้อจำกัดด้านงบประมาณตามมาด้วย

ทั้งค่าเช่า server กล้อง cctv ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าไฟ ผู้บริหารมูลนิธิฯรวมถึงภาคเอกชนหลายแห่งร่วมสนับสนุน ทั้งนี้หัวเรี่ยวหัวแรงหลักในเรื่องเว็บไซค์ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน คือ คุณภูเบศร์ แซ่ฉิน คุณภาณุมาศ นนทพันธ์ โปรแกรมเมอร์ เท่ากับว่าเว็บไซต์นี้ดำเนินการโดยภาคประชาชน มิใช่ของเทศบาลนครหาดใหญ่หรือหน่วยงานใด เพื่อมิให้มีข้อจำกัดในการพึ่งระบบบริหารของรัฐ จำเป็นต้องยกให้เป็นของคนหาดใหญ่มีส่วนร่วม มีแต่วิธีเช่นนี้จึงจะทำให้เมืองมีตัวช่วย ประชาชนได้ร่วมเป็นเจ้าของ

ทำไปแก้ปัญหาไป โดยเฉพาะช่วงเวลาวิกฤตคนเข้าดูพร้อมกันเรือนหมื่น ทำให้เกิดติดขัด ล่าช้า หน่วงเป็นระยะ จำเป็นที่จะต้องพัฒนาต่อไป

ล่าสุดคนเข้าเว็บYesterday 69,043 persons 273,912 views. ตัวเลขรวมตั้งแต่ดำเนินการมาเมื่อปี 2554 total view 11,459,348 persons 41,394,747 views

โดย Little Bear on 25 ธ.ค. 65 10:10

www.hatyaicityclimate.org ดำเนินการโดยมูลนิธิเครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(SCCCRN) ต่อเนื่องมาจากการทำงานโครงการเครือข่ายเมืองในเอเซียเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(ACCCRN) ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2553 โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิรอกกีเฟลเลอร์ ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน อาทิ ทน.หาดใหญ่ คลองแห คอหงส์ พะตง ม.อ. มทร.ศรีวิชัย ปภ.จังหวัด สสจ. โยธาธิการและผังเมือง ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก สำนักงานชลประทาน สนง.ทรัพยากรน้ำที่ 8 มูลนิธิชุมชนสงขลา เป็นต้น โดยมีดร.สมพร สิริโปราณานนท์ จากหอการค้ามาเป็นประธานคณะทำงาน

จุดเริ่มเพื่อหาพื้นที่เมืองรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยหาดใหญ่ เลือกทำเรื่องน้ำท่วมด้วยเหตุเป็นปัญหาหลัก จุดประสงค์สำคัญ เพื่อลดช่องว่างการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน ปกติหากเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนหาดใหญ่จะคุ้นชินกับการดูระดับน้ำในคลองอู่ตะเภา ภาพจำของคนหาดใหญ่จึงผูกติดความเชื่อว่าน้ำท่วม น้ำจะเอ่อล้นจากคลองเข้าท่วมเมือง คณะทำงานจึงนำกล้อง cctv ไปจับภาพ ณ จุดสำคัญของคลองตั้งแต่ต้นน้ำ(ม่วงก็อง) มาถึงกลางน้ำ(บางศาลา) มาถึงที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ และติดตั้งไปถึงระบบคลองสาขาที่มีผลต่อการเกิดน้ำท่วมเล็กในจุดสำคัญอื่นๆด้วย อาทิ คลอง 30 เมตร คลองหวะ ในอดีตก็มีกล้องที่คลองเรียน/คลอง ร.1 ตลาดกิมหยง แหลมโพธ์ และที่อื่นๆที่มิได้อยู่ในพื้นที่ทน.หาดใหญ่ เช่น พะตง(คลองตง)

นอกจากนั้นยังร่วมมือกับศูนย์อุตุฯ นำข้อมูลสำคัญ เช่น ภาพเรดาห์สทิงพระ ภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลฝนตามสถานีออนไลน์ ภาพกล้อง cctv จากชลประทาน(คลองหวะ) สนง.ทรัพยากรน้ำที่ 8(สะพานข้างอำเภอหาดใหญ่) ทำสื่อ ชุดความรู้ เปิดเพจ และแอพพลิเคชั่น city climate ไว้รองรับการเตือนภัยด้วยตนเองให้กับประชาชน

และยังได้จัดทำแผนรับมืออุทกภัยระดับชุมชน ร่วมกับกลุ่มจังหวัดจัดทำแผนรับมือระดับลุ่มน้ำไว้อีก 5 ลุ่มน้ำเมื่อราวปี 2557 อีกด้วย ด้วยข้อจำกัดและความคล่องตัวในการบริหารจัดการ คณะทำงานเลือกที่จะใช้มูลนิธิเป็นองค์กรรับผิดชอบหลัก แทนที่จะส่งมอบให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมิอาจตอบสนองการบริหารจัดการในรูปแบบเดิมที่มีการเชื่อมโยงข้ามองค์กร ข้ามพื้นที่ การทำงานเช่นนี้เป็นเรื่องใหม่ ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของระบบราชการ แต่ก็ต้องรับข้อจำกัดด้านงบประมาณตามมาด้วย

ทั้งค่าเช่า server กล้อง cctv ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าไฟ ผู้บริหารมูลนิธิฯรวมถึงภาคเอกชนหลายแห่งร่วมสนับสนุน ทั้งนี้หัวเรี่ยวหัวแรงหลักในเรื่องเว็บไซค์ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน คือ คุณภูเบศร์ แซ่ฉิน คุณภาณุมาศ นนทพันธ์ โปรแกรมเมอร์ เท่ากับว่าเว็บไซต์นี้ดำเนินการโดยภาคประชาชน มิใช่ของเทศบาลนครหาดใหญ่หรือหน่วยงานใด เพื่อมิให้มีข้อจำกัดในการพึ่งระบบบริหารของรัฐ จำเป็นต้องยกให้เป็นของคนหาดใหญ่มีส่วนร่วม มีแต่วิธีเช่นนี้จึงจะทำให้เมืองมีตัวช่วย ประชาชนได้ร่วมเป็นเจ้าของ

ทำไปแก้ปัญหาไป โดยเฉพาะช่วงเวลาวิกฤตคนเข้าดูพร้อมกันเรือนหมื่น ทำให้เกิดติดขัด ล่าช้า หน่วงเป็นระยะ จำเป็นที่จะต้องพัฒนาต่อไป

และต้องการการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนมาเป็นเจ้าของ

ล่าสุดคนเข้าเว็บ21ธค. 69,043 persons 273,912 views. ตัวเลขรวมตั้งแต่ดำเนินการมาเมื่อปี 2554 total view 11,459,348 persons 41,394,747 views

โดย Little Bear on 25 ธ.ค. 65 10:08

คาบเวลาฝนฟ้าตามฤดูกาลปีนี้ บวกกับปริมาณน้ำที่มากในรอบ 12 ปีต่อครั้ง อุตุฯบอกว่าหน้าฝนเริ่มช้ากว่าปกติไป 1 เดือน เช่นนั้นแล้วหน้าฝนภาคใต้ล่างยังไม่สิ้นสุด ปีใหม่ไปแล้วฝนยังมีมาได้อีก เราจึงต้องเตรียมพร้อมไปต่อแบบพร้อมกว่าเดิม

มูลนิธิ SCCCRN (เครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) ปรับหน้าเว็บใหม่ เพิ่มความร่วมมือทางserver จับมือกันระหว่าง ม.อ บ.inet/สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดสงขลา และมูลนิธิ SCCCRN เพื่อเมืองหาดใหญ่และเมืองอื่น

ลดภาวะหน่วง อืด ช้าของการจราจรในช่วงเวลาวิกฤตมีคนเข้าเว็บไซต์ www.hatyaicityclimate.org พร้อมกันนาทีละนับพันคน คุณภาณุมาศ โปรแกรมเมอร์บอกว่ารอบนี้ในช่วงเวลาฝนหนักสองสามวันต่อเนื่องมีคนเข้าดูเรือนแสนและจำนวนครั้งดูท่วมท้นไปกว่า 4 ล้านครั้ง คณะทำงานและทีมงานทั้งหมด จากศูนย์อุตุฯ ม.อ. อปท.ในเมืองหาดใหญ่(คอหงส์ พะตง รอทน.หาดใหญ่ และให้ประสานควนลัง) มูลนิธิชุมชนสงขลา สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดสงขลา ทีมโปรแกรมเมอร์ ประธาน เลขาฯ กรรมการมูลนิธิ SCCCRN นัดฉลองปีใหม่ หารือแนวทางรับมือในช่วงเวลาต่อไป(หากมี) โดยแบ่งงานเป็น 3 ส่วน

  1. แก้ปัญหาทางเทคนิคการเข้าถึงข้อมูลของเว็บไซต์ ทดสอบแนวทางใหม่จนสิ้นสุดหน้าฝนภายใต้ความร่วมมือของ 3 องค์กร ใช้งานคลาวน์ของบ.iNet นำภาพนิ่งจากการบันทึกไปไว้ใน server ของม.อ. การกระจายภาระงานจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงเว็บไซด์ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับติดตั้งกล้อง CCTV ในจุดต่างๆเพิ่มขึ้น มีความร่วมมือเสนอตัวมาช่วยราว 10-15 ตัว โดยเฉพาะคลองร.1(ณ สนง.ชลประทานและจุดที่บางแฟบ) ทีมงานปรับหน้าตาเว็บไซต์อีกครั้ง ประชาสัมพันธ์ให้ทราบอย่างชัดเจนและเป็นทางการว่าเป็นความร่วมมือกับองค์กรหน่วยงานต่างๆที่ดำเนินการโดยมูลนิธิ SCCCRN พร้อมเปิดรับความร่วมมือจากทุกแหล่งเพื่อมาร่วมกันเป็นเจ้าภาพและเจ้าของ ภายใต้แนวคิด "หน่วยงานเป็นเจ้าภาพ ประชาชนเป็นเจ้าของ"
  2. สื่อสารกับสังคม โดยเฉพาะความรู้พื้นฐานว่าเหตุน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ จะเกิดได้ 3 เงื่อนไข 1) ฝนหนักตกเฉพาะจุดในพื้นที่ เช่น กรณีคอหงส์ 2) ฝนหนักตกทั้งจุดภายในและภายนอกพื้นที่ 3) ท่วมใหญ่จากกรณีน้ำล้นจากคลองอู่ตะเภา พร้อมจัดทำเส้นทางน้ำ ให้รู้ผังการเดินทางของน้ำ ระบบระบายน้ำ เงื่อนไขการเตือนภัย จุดติดตั้ง CCTV เผยแพร่ในเว็บไซต์ ต้องการความร่วมมือจากจิตอาสาจัดทำคลิปสั้นๆ เป็นอนิเมชั่นดูง่ายๆ ใครมีความสามารถเสนอตัวมาได้ พร้อมจับมือช่วยกันสื่อสารกับสังคมผ่านเพจต่างๆ สร้างเครือข่ายสื่อ ลดความตื่นตระหนกและข่าวลือของประชาชน โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว หรือกลุ่มเสี่ยงต่างๆในช่วงเกิดวิกฤต ที่สำคัญสร้างการมีส่วนร่วม รับมือและปรับตัวกับภาวะเสี่ยงด้วยตนเอง และร่วมแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
  3. แผนงานอนาคต ม.อ. จับมือกับ iNet (อาจติด sensor) และเครือข่ายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงทำแผนกับชุมชนเสี่ยงภัยที่ต้องเผชิญความเสี่ยงลำดับต้นๆ อาทิ ทุ่งรี หน้าค่าย ควนลัง หรือการสื่อสารกับนักท่องเที่ยว/โรงแรม โรงเรียน ถึงขอบเขตของน้ำ ทิศทางการไหล ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณน้ำฝนกับระบบโครงสร้างพื้นฐานและการระบายน้ำ (ท่อส่งน้ำสายหลักและคูน้ำที่จะต้องขุดลอก/จุดสูบน้ำ-เครื่องสูบน้ำ/แก้มลิงต่างๆ/การพร่องน้ำและการระบายในช่วงวิกฤต) รวมถึงการประสาน อปท. ในพื้นที่ภูมินิเวศเดียวกันหารือร่วมกัน มองภาพเชื่อมโยงทั้งระบบ
โดย punyha on 23 ธ.ค. 65 12:45

ขออนุญาตเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของเว็บไซต์ www.Hatyaicityclimate.org

www.Hatyaicityclimate.org ดำเนินการโดยมูลนิธิเครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(SCCCRN) ต่อเนื่องมาจากการทำงานโครงการเครือข่ายเมืองในเอเซียเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(ACCCRN) ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2553 โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิรอกกีเฟลเลอร์ ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน อาทิ ทน.หาดใหญ่ คลองแห คอหงส์ พะตง ม.อ. มทร.ศรีวิชัย ปภ.จังหวัด สสจ. โยธาธิการและผังเมือง ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก สำนักงานชลประทาน สนง.ทรัพยากรน้ำที่ 8 มูลนิธิชุมชนสงขลา เป็นต้น โดยมีดร.สมพร สิริโปราณานนท์ จากหอการค้ามาเป็นประธานคณะทำงาน


จุดเริ่มเพื่อหาพื้นที่เมืองรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยหาดใหญ่ เลือกทำเรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องหลัก


จุดประสงค์สำคัญ เพื่อลดช่องว่างการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน ปกติหากเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนหาดใหญ่จะคุ้นชินกับการดูระดับน้ำในคลองอู่ตะเภา ภาพจำของคนหาดใหญ่จึงผูกติดความเชื่อว่าน้ำท่วม น้ำจะเอ่อล้นจากคลองเข้าท่วมเมือง คณะทำงานจึงนำกล้อง cctv ไปจับภาพ ณ จุดสำคัญของคลองตั้งแต่ต้นน้ำ(ม่วงก็อง) มาถึงกลางน้ำ(บางศาลา) มาถึงที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ และติดตั้งไปถึงระบบคลองสาขาที่มีผลต่อการเกิดน้ำท่วมเล็กในจุดสำคัญอื่นๆด้วย อาทิ คลอง 30 เมตร คลองหวะ ในอดีตก็มีกล้องที่คลองเรียน/คลอง ร.1 ตลาดกิมหยง แหลมโพธ์ และที่อื่นๆที่มิได้อยู่ในพื้นที่ทน.หาดใหญ่ เช่น พะตง(คลองตง)


นอกจากนั้นยังร่วมมือกับศูนย์อุตุฯ นำข้อมูลสำคัญ เช่น ภาพเรดาห์สทิงพระ ภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลฝนตามสถานีออนไลน์ ภาพกล้อง cctv จากชลประทาน(คลองหวะ) สนง.ทรัพยากรน้ำที่ 8(สะพานข้างอำเภอหาดใหญ่) ทำสื่อ ชุดความรู้ เปิดเพจ และแอพพลิเคชั่น city climate ไว้รองรับการเตือนภัยด้วยตนเองให้กับประชาชน


และยังได้จัดทำแผนรับมืออุทกภัยระดับชุมชน ร่วมกับกลุ่มจังหวัดจัดทำแผนรับมือระดับลุ่มน้ำไว้อีก 5 ลุ่มน้ำเมื่อราวปี 2557 อีกด้วย


ด้วยข้อจำกัดและความคล่องตัวในการบริหารจัดการ คณะทำงานเลือกที่จะใช้มูลนิธิเป็นองค์กรรับผิดชอบหลัก แทนที่จะส่งมอบให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมิอาจตอบสนองการบริหารจัดการในรูปแบบเดิมที่มีการเชื่อมโยงข้ามองค์กร ข้ามพื้นที่ การทำงานเช่นนี้เป็นเรื่องใหม่ ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของระบบราชการ แต่ก็ต้องรับข้อจำกัดด้านงบประมาณตามมาด้วย


ทั้งค่าเช่า server กล้อง cctv ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าไฟ ผู้บริหารมูลนิธิฯรวมถึงภาคเอกชนหลายแห่งร่วมสนับสนุน


ทั้งนี้หัวเรี่ยวหัวแรงหลักในเรื่องเว็บไซค์ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน คือ คุณภูเบศร์ แซ่ฉิน คุณภาณุมาศ นนทพันธ์ โปรแกรมเมอร์


เท่ากับว่าเว็บไซต์นี้ดำเนินการโดยภาคประชาชน มิใช่ของเทศบาลนครหาดใหญ่หรือหน่วยงานใด เพื่อมิให้มีข้อจำกัดในการพึ่งระบบบริหารของรัฐ จำเป็นต้องยกให้เป็นของคนหาดใหญ่มีส่วนร่วม มีแต่วิธีเช่นนี้จึงจะทำให้เมืองมีตัวช่วย ประชาชนได้ร่วมเป็นเจ้าของ


ทำไปแก้ปัญหาไป โดยเฉพาะช่วงเวลาวิกฤตคนเข้าดูพร้อมกันเรือนหมื่น ทำให้เกิดติดขัด ล่าช้า หน่วงเป็นระยะ จำเป็นที่จะต้องพัฒนาต่อไป


ล่าสุดคนเข้าเว็บ Yesterday (22-12-65)  69,043 persons 273,912 views.

ตัวเลขรวมตั้งแต่ดำเนินการมาเมื่อปี 2554 total view 11,459,348 persons 41,394,747 views

341 items(1/35) 2 3 4 5 Next » Last »|